คุณหนิง อรุณี สักขวา

“ซิงเกิ้ลมัมสุดแกร่ง ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้คุณแม่และผู้ป่วยทุกคนสู้ชีวิต” คุณอรุณี สักขวา หรือคุณหนิง เป็นทั้งคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ดูแลลูกสามคนและเป็นผู้มีภาวะปากแหว่งและเพดานโหว่ร่วมด้วย เธอได้ถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้สึกที่เคยท้อแท้จากแรงกดดันในการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนผู้อื่น แต่สิ่งที่ทำให้คุณหนิงฮึดสู้และมีกำลังใจ คือ “ความเป็นแม่” เธอตั้งมั่นว่าจะเป็นแม่ที่ดีที่สุด และจะอดทนเลี้ยงลูกให้เติบโตเป็นคนดีและอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข โดยมีลูกๆ และครอบครัวของเธอคอยเป็นกำลังใจ แม้ในบางช่วงของชีวิตอาจมีเหตุวิกฤติ ก็ยังสามารถผ่านพ้นไปได้ ปัจจุบัน คุณหนิงประกอบอาชีพแมบ่ ้านอย่ทู ี่บริษัท SCG มีรายได้สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้อย่างเข้มแข็ง คุณหนิงอยากเป็นกำลังใจให้กับแม่ที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่เหมือนตน โดยให้ข้อคิดว่า “ต้องมองโลกในแง่บวกเข้าไว้ และให้คิดถึงลูก จะมีกำลังใจมากขึ้น” นอกจากนี้ การที่คุณหนิงได้รับความช่วยเหลือด้านทุนสนับสนุนการประกอบอาชีพจากมูลนิธิตะวันฉายฯ ทำให้เธอได้รับรู้ว่า สังคมยังไม่ทอดทิ้ง ดังนั้น ทั้งคุณหนิงและมูลนิธิตะวันฉายฯ จะอยู่พร้อมเป็นกำลังใจให้แก่แม่ๆ และผู้ป่วยทุก

น้องเอ ลิขิต สำราญเนตร

“แรงใจที่ยิ่งใหญ่จากครอบครัว สร้างหนุ่มหล่อผู้ตอบแทนสังคม” น้องลิขิต สำราญเนตร มีภาวะปากแหว่งและเพดานโหว่ ซึ่งต้องเข้ารับผ่าตัดรักษาในปี พ.ศ.2543 ขณะอายุได้ 8 เดือน ด้วยความที่ครอบครัวอาศัยอยู่ห่างไกลจากโรงพยาบาล การเดินทางก็ลำบาก เนื่องจากฐานะทางครอบครัวไม่สู้ดีนัก ส่งผลกระทบถึงสภาพจิตใจที่ครอบครัวต้องเผชิญ แต่ด้วยความหวังและแรงใจที่แข็งแกร่ง ครอบครัวได้พาน้องลิขิตมารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์อย่างต่อเนื่อง ผลจากความรักของครอบครัว ทำให้น้องลิขิตได้รับการผ่าตัดรักษาจน ปัจจุบันมีใบหน้าที่หล่อเหลา น้องลิขิตเป็นคนมีความมั่นใจในตนเองและชอบทำกิจกรรมเพื่อสังคม จึงมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน เช่น โครงการงดบุหรี่ในวัยรุ่น เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับผู้อื่น ทั้งนี้ ครอบครับน้องลิขิต ขอขอบคุณมูลนิธิตะวันฉายฯ คุณหมอและพยาบาลทุกท่าน ที่ช่วยเหลือน้องลิขิตจนมีวันนี้ และน้องลิขิตขอฝาก กำลังใจให้น้องๆ ตะวันฉายด้วยว่า “ทุกคนที่เกิดมามีใบหน้าเหมือนกับผม เส้นทางข้างหน้ายังมีความหวังสำหรับเราเสมอ เมื่อเรายังเดินต่อได้ เราก็ต้องสู้และพยายามต่อไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งความหวังจะเป็นจริงครับ”

น้องสร้อย สร้อยสุดา โนพา

ตั้งแต่ครั้งแรกที่หนูได้ไปรับการรักษา คุณหมอให้การช่วยเหลือและแนะนำดีมากค่ะ คอยเอาใจใส่และห่วงใยไม่เคยทอดทิ้งหนู ทุกครั้งที่ไปโรงพยาบาลหนูประทับใจมาก ไม่ว่าจะเป็นการรักษาการผ่าตัดในทุกครั้ง คุณหมอก็เอาใจใส่ดีมาก พูดจาดีมาก ทำให้หนูมีชีวิตใหม่ กล้าเผชิญหน้ากับทุกคน และไม่ท้อถอยกล้าต่อสู้กับอุปสรรคทุกอย่างโดยไม่ย่อท้อ หนูจะตั้งใจเรียนให้สำเร็จ จะได้ทำงานเลี้ยงดูคุณพ่อกับคุณแม่และน้องๆ  สิ่งที่หนูไม่เคยลืม คือ มูลนิธิตะวันฉายฯ ไม่เคยทอดทิ้งและคอยดูแลห่วงใยมาตลอด ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เข้ามารับการดูแลโดยมูลนิธิฯจนถึงปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนในด้านต่างๆ ทั้งค่าเดินทาง ทุนการศึกษา อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์การเรียน ซึ่งหนูขอบพระคุณมูลนิธิตะวันฉายฯ คุณหมอทุกท่านและโรงพยาบาลศรีนครินทร์มาก ๆ ค่ะ